เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 62 ผู้สื่อได้เดินทางไปที่ วัดหนองหัวลิง หมู่ 2 ต.หมากเขียบ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อพบกับเจ้าอาวาสวัด  หลังจากทราบว่าที่วัดนี้ มีปัญหาเรื่องเงินบริจาคสร้างอุโบสถ โดยเจ้าอาวาสได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน  และ ไวยาวัจกรณ์  ที่รับเงินบริจาคเงินจากผู้มีใจกุศล เพื่อก่อสร้างอุโบสถให้กับวัด จำนวน 100,000 บาท เมื่อไปถึงได้พบกับพระอธิการ สฤษย์ สุทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดหนองหัวลิง พร้อมคณะกรรมการวัด  ซึ่งได้พาผู้สื่อข่าวไปดูพระอุโบสถที่กำลังเริ่มก่อสร้าง

พระอธิการ สฤษย์ สุทธญาโณ เจ้าอาวาสวัดหนองหัวลิง กล่าวว่า ทางวัดได้กำหนดก่อสร้างพระอุโบสถ ในงบประมาณ 7,400,000 บาท โดยทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ในวันวางศิลาฤกษ์ ได้มีญาติโยมมาร่วมพิธีกันจำนวนมาก ซึ่งต่างก็ได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในการก่อสร้างพระอุโบสถหลังนี้ หนึ่งในญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคนั้น ก็มีโยมเจ้าของร้านขายวัสดุแห่งหนึ่งในตัวเมืองศรีสะเกษ  ได้แจ้งความจำนงกับคณะกรรมการว่าขอร่วมบริจาค 100,000 บาท แต่ในวันงานนั้น   เขามีเงินติดตัวเพียง  5,000 บาท จึงได้มอบให้คณะกรรมการไว้ พร้อมกับบอกว่า หลังจากเสร็จงานวางศิลาฤกษ์แล้วจะนำเงินส่วนที่เหลืออีก 95,000 บาทมามอบให้กับทางวัดเอง  แต่ทางวัดรอเงินจากเจ้าของร้านขายวัสดุผู้บริจาค แต่เวลาผ่านไป 4 เดือนกว่า ก็ยังไม่เห็นนำเงินมาส่งมอบให้คณะกรรมการ จึงได้ปรึกษาหารือกับคณะกรรมการว่าจะทำอย่างไร เพราะช่างก่อสร้างก็ต้องการเบิกเงินค่าแรง

เจ้าอาวาสวัดหนองหัวลิง กล่าวต่อว่า เมื่อ  2 วันที่ผ่านมา อาตมา ได้เดินทางไปซื้อวัสดุที่ร้านขายวัสดุแห่งนี้  ซึ่งเป็นผู้ประสงค์ขอ ร่วมบริจาค ไปในวันวางศิลาฤกษ์  แล้วนั้น จึงได้ถามเจ้าของร้านถึงเงินบริจาค  จึงได้ทราบว่า มีนายประหยัด เขียวพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.หมากเขียบ อ.เมืองศรีสะเกษ และนายอัมพร สาระ ไวยาวัจกรวัดบ้านหนองหัวลิง  มารับเงินไปตั้งนานแล้ว  มารับหลังจากเสร็จงานไม่นาน ตนเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านก็จึงได้มอบเช็คให้ไป    ต่อมา เจ้าอาวาสวัดหนองหัวลิง ได้ปรึกษากับ กรรมการวัดอีกหลายคน  และลงความเห็นว่า  นายประหยัด มีตำแหน่งถึงผู้นำชุมชน  และประพฤติตัวไม่เหมาะสม เสื่อมเสียชื่อเสียงหมู่บ้าน  รวมทั้ง เคยมีเรื่องเสียหาหายในเรื่องเงินมาหลายครั้งแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านและไวยาวัจกร  เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีโดยเด็ดขาดและให้ถึงที่สุด  ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหนองหัวลิง  เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนายประหยัด เขียวพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหนองหัวลิง  ที่ถูกกล่าวหา เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่พบเนื่องจากนายประหยัดไม่อยู่บ้าน  และได้พยายามโทรศัพท์ ติดต่อหาก็ติดต่อไม่ได้  พ.ต.ท.เจษฎาพร  รองทอง สว. (สอบสวน)  สภ.เมืองศรีสะเกษ ร้อยเวร เจ้าของคดี  กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายแล้ว ตนได้นัดสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมในวันพุธที่ 2 ต.ค.62 และให้ผู้เสียหายเชิญเจ้าของร้านขายวัสดุที่บริจาคเงินมาให้ปากคำในฐานะพยานพร้อมกันด้วย.

ช่วงวิทย์  อุดมธนากรกุล : ภาพ-ข่าว